ตั้งใจว่าจะอัพเดทมานานละ แต่ว่าเว็บโดนเล่นงานเลยพักไว้ก่อน พอดีว่าไปฟังการบรรยายจากที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของผมเองมา เห็นว่าดีมากๆ เพราะเกี่ยวข้องใกล้ตัวของเราในชีวิตประจำวัน และอยากให้คนที่กำลังจะเป็น พ่อ แม่ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ลองทบทวนดูว่า จริงๆแล้วสาเหตุมันมาจากอะไร เด็กๆ ผิดหรือไม่ สรุปด้านล่างนี้ อาจารย์ผมสรุปไว้ใน facebook ผมว่าอ่านแล้วเข้าใจดี ก็ขอคัดลอกมาแปะไว้เลย ลองอ่านกันดูนะครับ เรื่อง “การใช้ Internet ในทางที่ผิดของนศ ระดับปริญญาตรีในเขตกรุงเทพและปริมณฑล”

เราต้องยอมรับว่า Internet มีความสำคัญมากในปัจจุบันและทุกคนก็บอกว่าใช้ในการหาข้อมูล ติดต่อสื่อสาร หาเพื่อน ผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง เลยอยากได้อุปกรณ์และ Internet ที่มีความเร็วสูง แต่การใช้ internet อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านการเรียน ด้านสุขภาพร่างกาย ด้านอารมณ์ด้วย ปัจจุบันมีนศ จากต่างจังหวัดเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพและปริมณฑลเยอะมาก

บางมหาวิทยาลัยได้มีข้อบังคับให้นศ ชั้นปีแรกพักในหอพักของมหาวิทยาลัย แต่หลังจากนั้น นศ จะย้ายออกไปอยู่หอข้างนอก ซึ่งมีบริการ Internet พร้อม แต่ไม่มีการควบคุมการใช้มีงานวิจัยหลายชิ้นได้ทำการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปัญหาเนื่องจากใช้ Internet (abuse of Internet) ซึ่งบางปัญหาก็ได้ถูกระบุให้ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายที่เรียกว่า computer crime แต่ก็ยังมีผลที่ขัดแย้งแตกต่างเนื่องจากวัฒนธรรม ประชากร และเรื่องที่ละเอียดอ่อนหลายเรื่อง งานวิจัยชิ้นนี้จึงดึงเอาปัจจัยที่มีความขัดแย้งบางปัจจัยมาศึกษา ผนวกกับเพื่อที่จะดูว่าวัฒนธรรมของคนไทยส่งผลให้ผลการวิจัยแตกต่างจากผลการวิจัยที่ผ่านมาหรือไม่ ปัจจัยเหล่านั้นคือ การรับรู้ความเครียด (perceived stress) การค้นหาทางอารมณ์ (sensation seeking) ซึ่งเกิดจากการเลี้ยงดู ความอบอุ่นที่ได้รับและการยอมรับตัวตนของตนเอง( disinhibitation) และการเบื่อง่ายหรือสมาธิสั้น (boredom susceptibility)

นศ ระดับ ปริญญาตรีที่อาศัยในหอเอกชนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลได้ให้ข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ทางสถิติ โดยการใช้ Internet ในทางที่ผิดจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ Internet addiction และ cybersex addiction ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าความเครียดไม่มีผลต่อการทำผิด แต่ การค้นหาทางอารมณ์มีผลอย่างมากในการกระทำความผิดทั้งสองประเภท โดยเด็กที่มีระดับของ disinhibition สูง (ขาดความอบอุ่น ขาดความรัก ขาดการยอมรับ) มีผลอย่างมากในการทำผิด เช่นเดียวกับถ้ามีภาวะเบื่อง่ายสูงจะทำให้เกิดโอกาสในการทำผิดสูง

เมื่อทำการศึกษาลึกมากขึ้นโดยเอาวิถีความเป็นอยู่และความรู้ทางคอมพิวเตอร์ที่นศ มีมาพิจารณา จะพบว่า นศ ที่อยู่หอคนเดียวและมีระดับของ disinhibition และ boredom susceptibility สูง จะกระทำความผิดทางด้าน non-sexual addiction มากกว่าอยู่กับผู้อื่น นศที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนสนิทจะกระทำความผิดทางด้าน sexual adddiction มากกว่านศ ที่อยู่กับคนที่ไม่สนิทหรือญาติ และถ้ามีการกระทำผิดแล้ว หากนศ มีความรู้และความคุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์มากจะมีผลต่อการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ตามที่ระบุในกฎหมายมากขึ้น

ในปัจจุบันระดับการเสพติด Internet ของนศ สูงระดับปานกลางเมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ระบุไว้โดยนักวิชาการ นศ จำนวนน้อยมากรับรู้เกี่ยวกับพรบ กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ปกตินศ จะใช้ Internet โดยเฉลี่ย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ใช้ติดต่อกัน 3-4 ชั่วโมงในช่วงหลังสองทุ่มเป็นต้นไป

งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตอบรับให้นำเสนอใน 2012 6th International Conference on New Trends in Information Science and Service Science ที่ไต้หวัน และได้รับเลือกให้ตีพิมพ์ในInternational Journal of Information Processing and Management ในอีก2-3 เดือนข้างหน้า โดยเพิ่มผลการวิเคราะห์ส่วนหลังเข้ามา เราทำงานวิจัยนี้ร่วมกับ ผศ. ดร. จิรศิลป์ จยาวรรณ และ ขชล มงคลชู พวกเราคิดว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ใหญ่ทุกคนที่มีเด็กอยู่ในความปกครองนะคะ เพราะเป็นบริบทของสังคมไทยเลยล่ะ ทุกคนจะต้องคิดแล้วล่ะว่าจะทำยังไงให้ระดับของ disinhibition กับ boredom susceptibility ต่ำ