เมื่อวานได้ลองเล่น Adobe Photoshop Express Beta สรุปใจความได้ว่า

  • ต้องลง flash 9 plugin ก่อน
  • ทดลองบน ADSL True 1 Mbps ก้อพอรับได้นะ
  • สามารถต่อกับ picasa, facebook, photobucket
    • ดึงรูป มาใส่ไว้ใน library ได้ (แน่นนอน Drag Drop ได้อยู่แล้ว)
    • ดึงรูปมาแก้ไขแล้ว save เป็นไฟล์ใหม่ ลงบน picasa (ลองแค่อันเดียว) ได้เลย
    • จริงๆแล้วถ้าลากทั้งอัลบั้มมาใส่ได้เลยจะดีมาก (หรือผมทำไม่เป็นไม่รู้นะ)

เอารูปมาให้ดูกันดีกว่า

My Photos เป็นหน้าจอที่เราใช้จัดการ รูปภาพต่างๆ

pseb_1.jpg

หน้าจอสำหรับการแต่งภาพ

pseb_2.jpg

หน้าจอ My Gallery (ถ้าอยากให้ อัลบัมไหน แสดงสู่สาธารณะชน ก็ไปติ๊กถูกไว้)

pseb_3.jpg

Full Screen Mode

pseb_4.jpg

ก็พอหอมปากหอมคอ นะครับ อย่าอยู่เฉยๆ ลองดูด้วยตัวเองครับผม

ในที่สุดหลังจากลองมาสองถึงสามธีม ก็มาถึงธีมตัวปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะเป็น fixed width แต่ก้อกว้างขวางใหญ่โต และที่สำคัญ มีเนื้อที่พอให้แปะรูป ขนาด 660 x 660 ได้ ก้อเลยจัดการเปลี่ยนหัวจากรูปรถออดี้ เป็นหัวลำโพงซะ ใช้เวลาแค่ หนึ่งนาทีเท่านั้น และด้วยความที่ยังคิดงานไม่ออกก็เลยจัดการเอาสนามเด็กเล่นพวก social network ทั้งหลายมาใส่ลงไปด้วยครบครั้น

ยังไม่พอบางครั้งมีเหตุการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งบางเวลาอยากจะเขียนแต่ว่าอัปบล็อกมันต้องให้มันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย เลยทำให้พลาดโอกาสในการอัพไปหลายครั้ง คราวนี้เลยมี twitter มาช่วยคอยอัพเดทข่าวสารให้เพราะมันอัพผ่านทาง IM Gtalk ได้ แต่ผมใช้ Pidgin เป็น Client เท่านั้นเอง เผื่อแฟนๆ (คิดไปเองว่ามี) เข้ามาแล้วไม่เห็นมีอะไรอัพเดทเป็นเรื่องเป็นราว (แต่ไร้สาระ) ก็จะได้อ่าน twitter ไปพลางๆได้ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า ยังไม่หายไปไหน (ดีมั๊ย?)

เรื่องสุดท้ายก็คงเป็นเรื่อง คอลัมน์ “คุยเฟื่องเรื่องประกันกับจุ๊บแจง” ก็ยังไม่หายไปไหนเช่นเดิมแต่ตอนนี้เธอ หันมาเป็น ที่ปรึกษาทางการเงินอย่างเต็มตัวแล้ว และกำลังเร่งทำ “คุณวุฒิ” อยู่ขอวางมือกับการเขียนไปซักสองสามเดือนแล้วจะกลับมาเขียนต่อ ซึ่งขอแฟนๆรอซักแป๊บนึง

แอบโฆษณานิดหน่อยคือตอนนี้ผมก็เริ่มรับงานถ่ายภาพเป็นค่าขนมบ้างแล้ว ใครสนใจก็ติดต่อได้ทันทีไม่ต้องเกรงใจ แต่ขอรับงานเฉพาะช่วงเย็นหรือเสาร์อาทิตย์นะครับ เพราะไม่อยากให้เสียงานหลัก ราคามาคุยกัน บอกแล้วว่าเป็นค่าขนม แต่คงไม่ไปตัดราคาใคร สบายกว่ากันเยอะเลย

โม้ๆบ่นๆมาซักพักแล้วขอตัวไปนอนพักซักหน่อยดีกว่า วันนี้มึนๆเบลอๆยังไงแปลกๆ

สวัสดีครับผม

ปล. ก่อนจาก ลืมไปว่ามีเว็บแบบทดสอบดีๆ มาฝากครับ นั่นคือ Asshole Rating Self-Exam (ARSE) ของ Bob Sutton มาให้ทดลองทำกัน ผมได้ยังไม่ได้ทำหรอกแต่อ่านคร่าวๆแล้ว กะว่าตื่นนอนมึนๆ แล้วค่อยมาลองทำดู

วันนี้ EOS Privilege Club Party 2008 มา หนุกดี ปาล์มมี่ เก่งมาก เอ็นเตอร์เทนดี นักดนตรีก็เล่นมันสุดๆ (แต่แอบเห็นส่ายหัว ว่า ไอ้พวกนี้เอาแต่ถ่ายรูป {ก็มีแต่ตากล้องนี่หว่า?}) พอลล่า ดูดีเหมือนในรูปถ่าย ทีวี และอื่นๆ พี่อนุชัย ก็เป็นคนเปิดเผยดี ส่วนพี่คเชนทร์ จะเขินอะไรมากมายขนาดนั้น (แต่ถ่ายรูปพอลล่าออกมาเนียนโคตร) พรุ่งนี้ไปฟังตาว่านร้องเพลงดีกว่า

พี่อนุชัย
พี่อนุชัยเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญมาเล่าประสบการณ์การทำงาน พร้อมเปิดกระเป๋าให้ดูว่าในกระเป๋ามีอะไรบ้าง

พี่เคชนทร์
พี่เคชนทร์ตากล้องผู้ถ่ายภาพ พอลล่า สำหรับงานโฆษณาชุดใหม่ (ที่ออกอากาศอยู่) เห็นแบบนี้นึกว่าจะแร็บโย่ แต่จริงๆแล้วขี้เขินสุดๆ

พอลล่า
จะขาดพอลล่าไปได้อย่างไร น่ารักสุดๆ

ปาล์มมี่
และคอนเสิร์ตสุดมันจาก ปาล์มมี่ จ่าดำ จ่าดำ จ่าดำ ด่าด๊า..

ปล เมื่อวาน พลาดพี่ป๊อดไป (เซ็งเปร็ด)
ที่เหลือดูต่อที่ multiply  นะครับผม

หายไปนานเลยผม กลับมาคราวนี้เอา ทริ๊กดีๆ ง่ายๆมาฝากอีกแล้ว เป็นกันคัดลอกสูตร แบบรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องขยับเมาส์ ให้ข้อเสื่อม มาดูกันดีกว่า

โดยปกติแล้วเวลาที่เราต้องคัดลอกสูตรเราก็จะสร้างสูตรที่หัว คอลัมน์ใช่หรือเปล่าครับ แล้วก้อบรรจงเอาเมาส์ไปจิ้มแล้วลาก พรืดๆ ลงมา ปัญหาก็อยู่ทีว่า มันจะเกินบ้างขาดบ้าง (เพราะหยุดไม่ทัน)  แล้วยิ่งเวลามีแถวข้อมูลเยอะๆแล้วด้วย ยิ่งแย่ใหญ่ ลากเมาส์เกรงข้อมือกันจน ข้อแทบเสื่อม ปัญหาเหล่านี่จะหมดใจ ถ้าคุณ double click เมาส์เป็นครับ ยังไงกัน ยังไงกัน มาดูรูปดีกว่า Continue reading

เรื่องนี้อาจจะค่อนข้างเป็นเรื่องภายในซักหน่อย งาน Kick Off Meeting 2008 ก็คืองานประจำปีของบริษัทนั่นเอง เพื่อที่จะสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และแผนงานสำหรับปีถัดไป แต่นี้รูปแบบงานเปลี่ยนไป ที่มีพิเศษก็คือ มีการแจก Long Services Award (หรือรางวัลของคนเก่าแก่นั่นเอง) แจกตั้งแต่คนที่มีอายุงานห้าปีขึ้นไป ซึ่งรวมๆแล้ว ก็ร่วม สามถึงสี่สิบคน คนที่มากสุดคือ 28 ปี เรียกได้ว่าเป็นป๋า ประจำบริษัทไปเลยทีเดียว มีรูปเข็มกลัด แห่งความภาคภูมิใจมาให้ดูด้วย

 dscf1484.jpg

ปล ของผมพลาดไปหน่อย ที่ไม่ได้นับตั้งแต่ contract (ทำงานตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่) ไม่อย่างนั้นก็ลุ้นได้กะเค้าด้วยนะเออ (กลายลูกหม้อบริษัทไปเลย)  ดูรูปงาน(นิดหน่อย)ที่นี่

สวัสดีค่ะ แฟนๆ Patr’s Web และทุกท่านที่หลงเข้ามา

ต้องกราบขออภัยงามๆที่ดองตอนที่ 3 ไว้ซะนาน เนื่องจากเพิ่งจะมีเวลาพักหายใจจากการวิ่งปิดยอด ( > . < )/ เมื่อเดือนพฤศจิกายน และ การวิ่งแจกของสวัสดีปีใหม่เมื่อเดือนธันวาคม แต่สุดท้ายก็ยังแจกไม่เสร็จจนถึงเดือนมกราคม ( Y – Y )  มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ คราวที่แล้วทิ้งท้ายไว้ว่า จะมาชี้แจงให้ดูว่า ประกันชีวิตมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับความเสี่ยงแต่ละแบบยังไง  ( ใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยงเรื่องไหน ลองย้อนไปอ่านตอน 2 ดูนะ )

แรกเริ่มเดิมที ประกันชีวิตมีหลักการง่ายๆคือ เมื่อคนที่ทำประกัน เสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ผู้รับผลประโยชน์ พอเวลาผ่านไปคนที่ทำประกันเริ่มรู้สึกว่า ทำแล้วไม่ได้อะไร ทำเสียเปล่า ทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบใหม่ๆขึ้นมา เป็นแบบที่ ถ้าคนทำประกันยังไม่เสียชีวิต ก็จะได้เงินกลับคืนมาด้วย ก็คือแบบสะสมทรัพย์ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนั่นเอง

ดังนั้น พอจะสรุปตามหลักการของแจงให้เข้าใจง่ายๆได้ว่า

ประกันชีวิตมี 2 ประเภทคือ แบบทำเพื่อคนอื่นเป็นหลัก และ แบบทำเพื่อตัวเองเป็นหลัก

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจทำประกันชีวิต ลองถามตัวเองก่อนเลยว่าจะทำเพื่อใคร เพราะการตัดสินใจนี้เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุดของการเลือกแบบประกัน ใครที่ได้อ่านตอน 2 มาแล้ว ถึงตอนนี้ น่าจะรู้ตัวเองแล้วนะว่า จะทำเพื่อใคร

เมื่อเราตัดสินใจได้แล้ว ต่อจากนี้ไป แจงขอสรุปขั้นตอนหลักๆที่จะช่วยให้สามารถเลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดไว้ตามนี้ค่ะ

1. คำนวณออกมาให้ได้ว่า จำนวนเงินที่เราต้องการเป็นเท่าไหร่
2. เลือกแบบประกันที่เหมาะกับลักษณะนิสัยการเก็บเงินของตัวเองให้ได้มากที่สุด
อย่าเลือกเพราะความชอบเพียงอย่างเดียว หรือ บางคนเลือกตามคนอื่นก็มีนะ (^  ^ !!)
3. เลือกจำนวนเบี้ยให้เหมาะหลักการบริหารเงิน 3 ส่วนและเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า เพื่อให้เราสามารถส่งเบี้ยประกันได้จนครบสัญญา จะได้ไม่เสียสิทธิ์หรือขาดทุน

หลักการเบื้องต้นที่ว่านี้ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เช่น เราจะแน่ใจได้ยังไงว่า จำนวนเงินที่เราคำนวณได้นั้น ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

สุดท้ายนี้อยากเพิ่มเติมอีกสักเรื่องเกี่ยวกับข้อสงสัยที่ว่าประกันชีวิตที่เราทำไป ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจะเบิกอะไรได้บ้าง แจงขออนุญาตย้ำให้เข้าใจตรงกันอีกสักนิดนะคะว่า ประกันชีวิตทั้ง 2 แบบที่กล่าวมานั้น ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว ถ้าเราต้องการเบิกค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ต้องซื้อสัญญาเพิ่มเติมค่ะ ที่ต้องย้ำตรงนี้เพราะคนจำนวนไม่น้อย ยังเข้าใจว่า ทำประกันทุกแบบแล้วสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้หมด

ตอนต่อไปจะอธิบายให้ฟังเฉพาะประกันชีวิตแบบทำเพื่อคนอื่น ว่าเพื่อคนอื่นยังไง เบี้ยถูกหรือแพงขนาดไหน  แล้วจะมีวิธีคำนวณให้ได้จำนวนเงินที่ต้องการยังไง ลองติดตามกันดูนะคะ

เทปนี้ของรายการ คุณพระช่วยเทปนี้ผมพลาดครับ (ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา) เอาเป็นว่า เชิญอิ่มเอม และซาบซึ้งกับบทเพลงอีกบทหนึ่ง ที่จะกลายเป็นเพลงดีดี ที่อยู่ในความทรงจำครับ

เนื้อเพลง

คำร้อง: ประภาส ชลศรานนท์
ทำนอง: ประภาส ชลศรานนท์
เรียบเรียง: ประภาส ชลศรานนท์
ขับร้อง: อธิศรี สงเคราะห์ (พิการตาบอด)

แก้วกัลยาทรงคุณค่าเหนือจิตใจ
คือดอกไม้แห่งความรักและการแบ่งปัน
องค์พระพี่นางพระราชทานเป็นมิ่งขวัญ
ให้ผองผู้พิการไทยทั้งปวง

*** ดอกไม้ฟ้า แห่งกรุณา ประทานลงมาแสนชื่นใจ
ดั่งดอกไม้จากเทวาลัยจากแดนสรวง
ดอกไม้ฟ้า แก้วกัลยา แทนใจทั้งปวง
แทนความรักความเป็นห่วงความชื่นชม

ขาดแขนขาหรือดวงตามองไม่เห็น
ใช่จะลำค็ญใช่จะทุกข์หรือตรอมตรม
ยังมีหัวใจสู้ต่อไปอย่างสุขสม
คือชีวิตที่ชื่นชมโลกงดงาม

ซ้ำ ***

ขอขอบคุณ http://share.psu.ac.th/blog/scifile-etc/3097  สำหรับเนื้อเพลงครับ

[audio:KaewKalaya.mp3]

ต้องบอกตามตรงว่า ผมเพิ่งได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก เมื่อ สองวันนี้เอง ว่าแล้ว ก็อาศัย google เจ้าเก่าในการค้นหามาและ เหมือนกับที่หลายๆ คนพูดถึงกันคือประทับใจครับ ผมเลยเอามาฝากเพื่อนๆ กันครับ

ชื่อเพลง : แสงหนึ่ง
เนื้อร้อง – ทำนอง : บอยด์ โกสิยพงษ์
ขับร้อง : นภ พรชำนิ

รู้ไหมว่าเราซาบซึ้งใจแค่ไหน
และรู้ไหมว่าเรานั้น ปลาบปลื้มเท่าไหร่
ที่ได้มีเธอ เป็นพลังอันสำคัญ
เพราะว่าเรานั้นรู้เธอทำเพื่อใคร
เหน็ดเหนื่อยแค่ไหน เธอไม่ไหวหวั่น
เพื่อที่จะให้เรานั้นได้เดินต่อไป

แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่ว่าสำหรับเรานั้น…

เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเช่นไร
วันและคืนจะหมุนเปลี่ยนสักเท่าไหร่
เรานั้นก็แน่ใจ ว่าจะมีเธอยืนอยู่ข้างหลัง

แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นเธอ
แต่สำหรับเรานั้น…

เธอเหมือนดังกับแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

จึงอยากขอมอบเพลง เพลงนี้ให้
ให้เธอรับรู้ว่าสำหรับเรา เธอสำคัญเพียงไหน

เธอเป็นดั่งแสง ที่มองไม่เห็น
แต่เมื่อส่องมาสะท้อน สิ่งที่ซ่อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที
เปรียบเธอกับแสง แม้ไม่มีสี
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด
แต่เธอก็สะท้อน ความจริงให้โลกนี้
ได้พบเห็นสิ่งดี ๆ ว่างดงามเพียงใด

ขอบคุณ ข้อมูลที่ละเอียด มากๆ จาก http://gotoknow.org/blog/i-love-king/157249

[audio:OneBeam.mp3]

ก็ใกล้วันปีใหม่อีกแล้ว ผมมีการ์ด (ที่ผมตู่เอาเองว่า) สวยๆ มาให้ครับ

ขอความทุกข์ ในปีเก่า ให้ผ่านพ้น

ความหมองหม่น ให้หล่นหาย ให้คลายหมอง

คิดสิ่งใด ให้สมหวัง ดังใจปอง

ใช้ชีวิต ตามครรลอง พ่อสอนไว้ ในปีใหม่เทอญ

  card1_s.jpg

  card2_s.jpg

 card3_s.jpg

card4_s.jpg

 

สวัสดีปีใหม่ครับผม