สวัสดีค่ะ แฟนๆ Patr’s Web และทุกท่านที่หลงเข้ามา

ต้องกราบขออภัยงามๆที่ดองตอนที่ 3 ไว้ซะนาน เนื่องจากเพิ่งจะมีเวลาพักหายใจจากการวิ่งปิดยอด ( > . < )/ เมื่อเดือนพฤศจิกายน และ การวิ่งแจกของสวัสดีปีใหม่เมื่อเดือนธันวาคม แต่สุดท้ายก็ยังแจกไม่เสร็จจนถึงเดือนมกราคม ( Y – Y )  มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ คราวที่แล้วทิ้งท้ายไว้ว่า จะมาชี้แจงให้ดูว่า ประกันชีวิตมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับความเสี่ยงแต่ละแบบยังไง  ( ใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยงเรื่องไหน ลองย้อนไปอ่านตอน 2 ดูนะ )

แรกเริ่มเดิมที ประกันชีวิตมีหลักการง่ายๆคือ เมื่อคนที่ทำประกัน เสียชีวิต บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ผู้รับผลประโยชน์ พอเวลาผ่านไปคนที่ทำประกันเริ่มรู้สึกว่า ทำแล้วไม่ได้อะไร ทำเสียเปล่า ทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบใหม่ๆขึ้นมา เป็นแบบที่ ถ้าคนทำประกันยังไม่เสียชีวิต ก็จะได้เงินกลับคืนมาด้วย ก็คือแบบสะสมทรัพย์ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบันนั่นเอง

ดังนั้น พอจะสรุปตามหลักการของแจงให้เข้าใจง่ายๆได้ว่า

ประกันชีวิตมี 2 ประเภทคือ แบบทำเพื่อคนอื่นเป็นหลัก และ แบบทำเพื่อตัวเองเป็นหลัก

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจทำประกันชีวิต ลองถามตัวเองก่อนเลยว่าจะทำเพื่อใคร เพราะการตัดสินใจนี้เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุดของการเลือกแบบประกัน ใครที่ได้อ่านตอน 2 มาแล้ว ถึงตอนนี้ น่าจะรู้ตัวเองแล้วนะว่า จะทำเพื่อใคร

เมื่อเราตัดสินใจได้แล้ว ต่อจากนี้ไป แจงขอสรุปขั้นตอนหลักๆที่จะช่วยให้สามารถเลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดไว้ตามนี้ค่ะ

1. คำนวณออกมาให้ได้ว่า จำนวนเงินที่เราต้องการเป็นเท่าไหร่
2. เลือกแบบประกันที่เหมาะกับลักษณะนิสัยการเก็บเงินของตัวเองให้ได้มากที่สุด
อย่าเลือกเพราะความชอบเพียงอย่างเดียว หรือ บางคนเลือกตามคนอื่นก็มีนะ (^  ^ !!)
3. เลือกจำนวนเบี้ยให้เหมาะหลักการบริหารเงิน 3 ส่วนและเงินที่มีอยู่ในกระเป๋า เพื่อให้เราสามารถส่งเบี้ยประกันได้จนครบสัญญา จะได้ไม่เสียสิทธิ์หรือขาดทุน

หลักการเบื้องต้นที่ว่านี้ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เช่น เราจะแน่ใจได้ยังไงว่า จำนวนเงินที่เราคำนวณได้นั้น ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

สุดท้ายนี้อยากเพิ่มเติมอีกสักเรื่องเกี่ยวกับข้อสงสัยที่ว่าประกันชีวิตที่เราทำไป ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจะเบิกอะไรได้บ้าง แจงขออนุญาตย้ำให้เข้าใจตรงกันอีกสักนิดนะคะว่า ประกันชีวิตทั้ง 2 แบบที่กล่าวมานั้น ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว ถ้าเราต้องการเบิกค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ต้องซื้อสัญญาเพิ่มเติมค่ะ ที่ต้องย้ำตรงนี้เพราะคนจำนวนไม่น้อย ยังเข้าใจว่า ทำประกันทุกแบบแล้วสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้หมด

ตอนต่อไปจะอธิบายให้ฟังเฉพาะประกันชีวิตแบบทำเพื่อคนอื่น ว่าเพื่อคนอื่นยังไง เบี้ยถูกหรือแพงขนาดไหน  แล้วจะมีวิธีคำนวณให้ได้จำนวนเงินที่ต้องการยังไง ลองติดตามกันดูนะคะ