เป็นตำแหน่งงานทางด้าน software developer เช่นเดิมครับ ทำงานกับผมเลย (ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดี แต่เอาเป็นว่า มันแน่ๆ แค่เหนื่อยหน่อย)

คุณสมบัติคร่าวๆ ตามนี้ครับ (ชื่อตำแหน่งยังไม่มี)

หลักๆ: VB.NET (win/web) (.net 2.0), MSSQL 2000/ 2005, IIS

มีจะได้เปรียบ: PHP (plus AJAX), mySQL, AppServe

คุณสมบัติที่ไม่อยากได้: ไม่มีความพยายาม ไม่กระตือรือร้น คิดว่ามาทำงานที่นี่แล้วจะสบาย

การทดสอบ: ที่คิดไว้คร่าวๆคือ ผมจะมีโจทย์หนึ่งข้อ (ยังคิดไม่ออก แต่แบ่งเป็นสองตอน) มีอุปกรณ์ให้ทุกอย่าง แต่ยังไม่ได้ setup คุณต้องมาจัดการเอง มี internet ให้ แน่ใจได้เลยว่าเขียนโปรแกรมแน่ๆ ให้เวลา จนกว่าคุณจะพอใจ แต่ไม่เกิน สองวัน การทดสอบ อาจจะทำวันเสาร์- อาทิตย์ เพราะ คนที่มีงานอยู่อยากหางานใหม่ จะได้ มาทดสอบ แบบพิสดารนี้ได้

ข้อตกลงคือ: ตกลงเงินเดือนก่อน แล้วคุณทำทดสอบ แล้วผมกับคุณก็ต่างคนต่างเลือกว่า ผลการทำสอบแบบนี้ผมรับได้มั๊ย และคุณถ้าเจองานแบบนี้ กับเงินเดือนระดับนี้คุณรับได้หรือเปล่า

ไม่แน่ใจว่าจะมีคนสนใจแค่ไหน แต่ผมว่ามันต้องมีแหละน่า และผมเชื่อว่า การให้ลงมือทำงานจริงย่อมดีกว่านั่งสัมภาษณ์แค่ สองสามชั่วโมง

ผมเชื่อว่าด้วยวิธีการนี้ คนมาสมัครจะรู้ว่า เค้าจะเจออะไร และผมจะรู้ว่าผมจะเจออะไร

ใครมีวิธีดีๆ ก้อแนะนำมาได้ครับ

อ้อ เด็กจบใหม่ผมก็รับนะ แต่ว่าเอาโปรเจคจบมา พรีเซนต์ให้ผมดูซักนิดนึงครับ ส่วนการศึกษา จะจบอะไรมาก็ได้แต่ว่า ต้องมีคุณสมบัติตามด้านบน

ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่ง จะเกี่ยวกับด้าน Research (พี่อีกคนในแผนกฝากหา ยังไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนัก)

คุณสมบัติตามด้านล่าง (มีข้อใดข้อนึง แบบ แน่นปึก ถ้ามีสองข้อก็ได้เปรียบ)
1 มีความรู้เกี่ยวกับ ตลาดยา ความรู้ทางด้านยา และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ (น่าจะต้องจบทางด้าน เภสัช พยาบาล เทคนิคการแพทย์) – ICD10, ATC, Active Ingredient, Indication (ถ้าอ่านแล้วไม่รู้ว่ามันคืออะไรเลย ก็ถือว่าไม่มีคุณสมบัติข้อนี้ละกัน ง่ายดี)

2 มีความรู้ทางด้าน การ วิเคราะห์ วิจัย แปรผล ข้อมูล พื้นฐานทาง สถิติ

option: excel (analysis tools pack, chart, pivot)/ spss/ power point

เอาหละคับ ใครอ่านแล้วสนใจ อยากมาทำงานมันส์ๆ รายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องก็ส่ง resume กันเข้ามาได้เลยครับผม ที่ narapatp AT pharmalink.com (เริ่มงานประมาณปีหน้านะครับผม)

แล้วมาลุยงานมันส์ด้วยกันนะครับ
สวัสดี

Namaska
สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันที่แรก ที่เห็นแสงอาทิตย์ ที่ Ahmedabad, เมื่อคืนกว่าจะผ่านช่วงเวลาเดินทางมาราธอน กว่า 8 ชั่วโมง ว่าจะถึงโรงแรมก็ ห้าทุ่ม เศษๆ (GMT+5.5) ทำจัดการข้าวของและนั่งเช็คอีเมล์กว่าร้อยฉบับ!!! ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอ่านไปหมดแล้วหละแต่ว่า ไม่ได้มาร์กเอาไว้ เวลาใครมาเห็นจะเสียจริตเป็นอย่างมาก หาว่าไม่อ่านเมล์ ซะงั้นไป
โม้มายืดยาวความจริงแล้วไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่จะบอกว่าคราวนี้ได้ห้องมุมเกือบดี รวมกับ ตื่นเช้า ทำให้ได้รูปพระอาทิตย์ใบแดงกลมโต แต่กล้องผม จับมาได้เท่านี้ ใครอยากเห็นใบโตๆ ผมก็รับบริจากกล้อง และเลนส์อันใหม่ เพื่อเอามาถ่ายให้มันใหญ่หึ่มไปเลย ว่าแล้ว ก็ขอลาไปทำงานพร้อมกับ รูปพระอาทิตย์ยามเช้าที่ Ahmedabad นะครับ

dscf9979.jpg
ฟ้าขมุกขมัวเล็กน้อย ในตอนเช้าตรู่
 dscf9983.jpg
ก้อนเมฆปุกปุยรับแสงตะวันยามเช้า
dscf9999.jpg
เน้นชัดๆอีกที กับดวงอาทิตย์กลมโต

หลายๆคนที่ใช้ excel คงเคยเจอปัญหาที่ ข้อมูลในที่ import มาจาก Text File ประเภท Fixed Lenght มันจะมี ช่องว่างที่เราไม่ต้องการอยู่ (มักจะออกมาจากระบบ อื่นซะมากกว่าที่จะเกิดการการพิมพ์เข้าไป) มาดูตัวอย่างกันดีกว่า

trim1_12.JPG

จากรูปตัวอย่าง ด้านบน ใน item ที่ 1 มีการเคาะช่องว่าง สามครั้ง ให้สังเกตช่อง Length นะครับ ว่า มันนับได้ว่าข้อมูลในช่อง C4 มีความยาว 7 หน่วย ทั้งๆที่เราเห็นว่า มีแค่สีตัว ส่วน item ที่ 2 มีการเคาะ space ด้านหน้า สามครั้ง (อันนี้สังเกตง่ายหน่อย)

แต่ส่วนใหญ่แล้ว ข้อมูลแบบ item ที่ 1 จะเกิดได้มากกว่า ส่วนแบบ item ที่ 2 น่าจะเกิดจาก คนคีย์ข้อมูลเข้าไป หรือไม่ก็ก็อบมาแปะ

แต่คงจะไม่ดีแน่ ถ้าเราต้องมาจัดการ ค่อยๆ ลบที่ละตัวที่จะช่วยตัดช่องว่างทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ของ ตัวหนังสือในเซลล์ที่เราต้องการ (ลองนึกดูนะคับว่า ถ้าข้อมูลมีเป็นหมื่นแถว จะมานั่งไล่ทีละตัว) โชคดีที่ มีคำสั่ง TRIM อยู่ มาดูการใช้เลยดีกว่า

trim1_2.JPG

รูปด้านบนก็เป็นผลลัพธ์ ครับ ถ้าเราดูที่ช่อง Length after Trim จะเห็นว่า ความยาวของตัวอักษรก็เท่ากับที่มันควรจะเป็นครับ

เจ้าช่องว่างพวกนี้เอง พอเราจะเอาข้อมูลไปใช้ด้วยการ match แบบต่างๆ ก็จะทำให้มีปัญหาไปด้วย เช่น ถ้าเราเอาต้องเอาค่าพวกนี้ไปเป็นตัวที่ใช้สำหรับ LookUP ในคำสั่ง VLookUP ครับ แต่Trim จะจัดการกับช่องว่าง (space) เท่านั้นนะครับ ส่วนตัวอักษณ พวกที่ทำตัว เหมือน space Trim จะจัดการไม่ได้ ซึ่งส่วน มากจะเป็นตัวอักษณ ที่มีค่าใน ASCII code เกิน 127 ครับ ซึ่งหน้าตาเป็นยังไงเนี๊ยะ คร่าวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ

สวัสดีคะกลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะคะ คราวที่แล้ว แจงเล่าเกี่ยวกับที่มาที่ไปของ การประกัน ไปแล้ว ขออนุญาตทบทวนกันก่อนสักนิด (เผื่อบางคนลืมแล้วขี้เกียจกลับไปอ่าน) เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันว่า การทำประกันทำเพื่อทดแทนความสูญเสีย ไม่ใช่เพื่อ ทำกำไร

เมื่อเกิดความเสี่ยง เราก็จัดการกับความเสี่ยงด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยง การควบคุม และการยอมรับความเสี่ยง ( ประมาณว่า ยอมรับชะตากรรม ) แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ เลยเกิดการ ย้ายความเสี่ยงไปให้คนอื่นเสี่ยงแทนซะเลย นี่แหละ จึงทำให้เกิดการประกันขึ้น แล้วคนอื่นที่ว่า ก็บริษัทประกันทั้งหลายนั่นแหละ ที่มารับความเสี่ยงแทนเรา

วันนี้ เราจะมารู้จักกันว่า ประกันชีวิต คืออะไร ? Continue reading

จำได้คุ้นๆว่า lew เคยเล่นไว้ครั้งนึง เลยเล่นมั่ง ไม่มีอะไรมากหรอก

patrwebsitegraph.JPG

What do the colors mean?
blue: for links (the A tag)
red: for tables (TABLE, TR and TD tags)
green: for the DIV tag
violet: for images (the IMG tag)
yellow: for forms (FORM, INPUT, TEXTAREA, SELECT and OPTION tags)
orange: for linebreaks and blockquotes (BR, P, and BLOCKQUOTE tags)
black: the HTML tag, the root node
gray: all other tags

ใครอยากเล่นบ้างก็ลองไปที่ Websites as graphs ดูนะ

ความจริงแล้ววันนี้วางแผนไว้ว่าจะนั่งมาตรวจสอบข้อมูลที่เก็บมา (งานบริษัท) แต่ป่านชะนี้แล้วยังไม่ได้ทำเลย ไม่เป็นไร วันนี้วันอาทิตย์ จู่ๆ ก็มีความคิด แว๊บเข้ามาว่า รูปตอนไปสิงคโปร์ ที่ฝากไว้กับสองหาวจะโดนลบไปหรือป่าว (เพราะว่า แต่ละวันจะมีรูปส่งเข้าไปเยอะมากมากกกก) คิดได้แล้วก็เข้าไปดู และจัดการเอามาเก็บไว้ที่นี่ดีกว่า (คลิ๊กที่ภาพเพื่อดูภาพเต็มๆ นะครับ)

การถ่ายภาพชุดนี้ทั้งหมด ใช้ขาตั้งกล้องนะครับ (มีแค่บางภาพ ที่ไม่ใช้) ถ่ายมา สามถึงห้าภาพ แล้วมาต่อด้วย photo shop ปรับ คอนทราส บวก USM นิดหน่อย แล้วก็แปะ ตัวหนังสือครับ

panorama_01.jpg

มาต่อกันดีกว่า รูปคงไม่ได้เรียงลับดับเท่าไหร่นะครับ ภาพนี้ถ่ายบริเวณ river side walk ครับ เป็นเส้นทางที่ สามารถเดินท่องเที่ยว หรือว่า จะนั่งเรือก็ได้ครับ (ผมใช้เดินเอา ประหยัดดี) มองไปลิบๆ จะเห็น ตึกย่านธุรกิจ แสงไฟนีออน สัญลักษณ์หลายอันคุ้นตามาก (แต่ในรูปดันมองไม่ค่อยออก)
panorama_02.jpg

Continue reading

สายลมที่หวังดี – ทราย เจริญปุระ
แอบส่งดอกไม้ไปให้ เธอไม่รู้หรอก
กับสิ่งดีๆให้เธอ เธอไม่รู้
ยังคงปิดบังซ่อนอยู่
เธอไม่ต้องรู้ว่าฉันนั้นคือใคร…

ส่งความคิดถึงไปให้ เธอไม่รู้หรอก
เป็นกำลังใจให้เธอ อยู่เสมอ
แม้เราไม่ได้พบเจอ
อย่าเดาเลยเธอว่าฉันนั้นเป็นใคร…

ฉันอาจเป็นสายฝนเมื่อเธอร้อนใจ
อบอุ่นเหมือนไฟเมื่อเธอเหน็บหนาว
อาจเป็นดนตรีกล่อมเธอเมื่อเหงา
อาจเป็นแสงดาวเมื่อเธอแหงนมอง

แค่เพียงช่วยรับมันไปในทุกๆอย่าง
ก็เพียงต้องการให้เธอมีสุขเสมอ
แม้เราไม่ได้พบเจอ
อย่าเดาเลยเธอว่าฉันนั้นเป็นใคร…

ฉันอาจเป็นสายฝนเมื่อเธอร้อนใจ
อบอุ่นเหมือนไฟเมื่อเธอเหน็บหนาว
อาจเป็นดนตรีกล่อมเธอเมื่อเหงา
อาจเป็นแสงดาวเมื่อเธอแหงนมอง

แล้วเมื่อถึงเวลาก็จะรู้
เหตุผลที่ฉันนั้นทำให้เธอไป
เธอเขียนข้อความหนึ่งไปกับดอกไม้
ให้เธอเรียกฉันว่าสายลมที่หวังดี


นี่ก็ใกล้หน้าหนาวแล้ว
อากาศกำลังเปลี่ยนแปลง
รักษาสุขภาพกันด้วยนะ

วันนี้ได้ฤกษ์มาทักทายทุกท่านด้วยตัวเองเสียที หลังจากที่เจ้าภัทรเพื่อนสุดเลิฟ มาเปิดตัวไว้อย่างสวยงาม (เกินจริง) ว่าทุกท่านจะได้ความรู้เรื่องประกันจากแจง ซึ่งแจงเองก็หวังให้เป็นเช่นนั้น (-  – !)
อย่างที่ภัทรได้บอกไปว่า  มาขอร้องแกมบังคับขู่เข็ญให้ช่วยเขียนอะไรมาลงเว็บให้หน่อย เพราะช่วงนี้ไม่มีเวลาอัปเดทเว็บเลย เดี๋ยวแฟนๆ ที่มีอยู่น้อยนิด จะน้อยลงไปอีก ในฐานะที่แจงกับภัทร ได้คบหาดูใจกันมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปีแล้ว และภัทรก็เป็นลูกค้าที่น่าร้ากกกกกก เลยใช้เวลาไตร่ตรองประมาณเสี้ยวนาที ก็ตอบตกลง ด้วยหวังว่า อย่างน้อยจะได้เป็นสื่อกลางระหว่างสินค้า กับ ผู้ซื้อ ให้เกิดความเข้าใจในกันและกัน จะได้ไม่มองตัวแทนประกันชีวิตเป็นเหมือนแมลงสาบอย่างทุกวันนี้…(T-T)  และที่สำคัญที่สุด คือ คิดว่าผลบุญครั้งนี้จะได้ยอดจาก ตาภัทรเพิ่ม และถือโอกาสขยายตลาดไปในตัว (คือ แอบหวังเล็กๆว่า ถ้าทัศนคติของคนทั่วไป มองสินค้าประกันชีวิตดีขึ้น ยอดขายจะได้เพิ่มขึ้นด้วย…อิอิ)

ที่เขียนมาทั้งหมดสรุปก็คือจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับประกันชีวิต นั่นแหละ เพียงแต่จะเป็นในมุมมองของแจงเอง (อาจจะมี ทฤษฏี ที่น่าเบื่อนิดหน่อยมาเกี่ยวข้องบ้าง) แต่ที่สำคัญคือ “ภาษา” แจงก็จะเน้นไปทางภาษาพูด ให้เข้าใจง่ายๆ มากว่าที่จะเป็นภาษาหนังสือ ที่อ่านแล้ว งง แถมยังต้องมาตีความ เหมือนร่างรัฐธรรมนูญ (มันเกี่ยวกันตรงไหน)

เมื่อรู้จักที่มาที่ไปของแจงแล้ว เรามาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของ การประกันกันบ้าง แนวความคิดที่ถือว่าเป็นจุดกำเนิดของการประกัน นั่นก็คือ แนวความคิดเกี่ยวกับความเสี่ยง (The Concept of Risk)
ความเสี่ยงเกิดขึ้นเมื่อมีความไม่แน่นอนในอนาคต เราทุกคนก็พบกับความเสี่ยงตลอดเวลาอยู่แล้ว ลองแบ่งความเสี่ยงอย่างง่ายๆเป็น 2 ประเภท คือ ความเสี่ยงแบบเก็งกำไร (Speculative Risk) และ ความเสี่ยงแบบล้วนๆ (Pure Risk)
แล้วความเสี่ยงทั้ง 2 แบบต่างกันยังไงล่ะ  !!!! Continue reading

หลังจากที่สองสามอาทิตย์ก่อนไปขอร้อง (แกมขู่เข็ญ) เพื่อนรัก ใ้ห้มาช่วยเขียนอะไรลงเว็บให้หน่อย หลังจากคุยกันแล้ว ก็สรุปได้ว่าเราจะมีหัวข้อใหม่ ชื่อว่า “คุยเฟื่องเรื่องประกัน กับ จุ๊บแจง” เนื่องจากเธอเป็นโปรแกรมเมอร์ COBOL ที่ขายประกันฯ เป็นงานหลัก และแถมตอนเรียนวิชาโท ยังเรียน “คณิตศาสตร์ประกันภัย” อีกต่างหาก เพราะฉะนั่นแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยว่า เธอจะมาให้ความรู้แบบไม่มีกั๊ก แน่นอน

และเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่เอง เพื่อนจุ๊บแจงก็เพิ่งจะส่งบทความมาสดๆ ร้อนๆ ผมขอไปอ่านซักแว๊บก่อนนะครับแล้วจะรีบมาโพสให้อ่านกัน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ที่เกี่ยวกับการประกัน กันนะครับ

สำหรับคนที่มีคำถามค้างคาใจเกี่ยวกับเรื่องประกันก้อฝากไว้ใน คอมเมนต์ได้เลยนะครับ…

ปล. ผมก็มีเวลาอู้บทความของผมเองไปอีกซักระยะ (อ๊ะล้อเล่น)

ในระหว่างนั่งอัปเกรด Ubuntu อยู่ ได้ไปอ่านข่าวเจอโดยบังเอิญ จนจงใจเล็กน้อยถึงปานกลาง เลยเอามาบอกต่อๆกัน

โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของศูนย์ไทยกริดแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดอบรม การใช้ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์และเทคโนโลยีกริดขั้นพื้นฐาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ผมเคยไปร่วมในโครงการนี้มาแล้วครับ เมืื่อวันที่ 13 -14 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นโครงการที่ดีทีเดียวเชียวใครมีเวลาว่างและสนใจก็ลองไปดูนะครับ